อยากได้ข้อมูลทางวิศวกรรมของเหล็กSK3ข้อมูลเช่น ค่า stress ค่า yield

เหล็กSK3 ที่ถูกต้องต้องเรียกให้เต็มว่า SK3 M เป็นเหล็กในกลุ่ม Carbon tool steel ซึ่งจะมีตั้งแต่SK 2M–SK 7M แบ่งตามระดับของคาร์บอนตั้งแต่ 0.60-1.30% ส่วนSK3 M จะใช้กับงานที่ทำเป็นใบเลื่อยHacksaw ใบมีด กรรไกร และทำสปริง มี คาร์บอนตั้งแต่ 0.60-1.30%จะมี 2 ประเภทคือเกรดที่อบ (Annealing) และเกรดที่ไม่อบ (As cold rolled) ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติเชิงกลแล้วตามJIS G3311มีการกำหนดเพียงความแข็ง (Hardness, Hv) ดังนี้ SK3 M(Annealing): 220 Hv Max SK3 M (As cold rolled): 220-310 Hv Maxอย่างไรก็ตามจะเห็นว่าเป็นสเป็ค ความแข็งมีช่วงกว้าง ผู้ใช้ควรกำหนดและตกลงกับผู้ขายเฉพาะเจาะจงให้แคบลงซึ่งขึ้นกับลักษณะการใช้งานนั้นๆ

เหล็กแผ่นที่ใช้ในการผลิตบอดี้ของเครื่องปรับอากาศมีขนาดเท่าไหร่ครับ คือพอดีว่ากำลังหาข้อมูลทำรายงานเรื่อง การผลิตบอดี้ของเครื่องปรับอากาศอยู่อะครับ ก็เลยอยากรู้ว่าวัตถุดิบที่เป็นเหล็กแผ่นที่นำมาใช้ทำเนี่ย มันมีขนาด ความหนาเท่าไร และทำมาจากเหล็กชนิดใดกันครับ รบกวนพี่ๆช่วยบอกข้อมูล หรือลิงค์ที่จะให้ผมเข้าไปหาข้อมูล ได้ทีนะครับ ขอบคุณมากครับ

เหล็กที่ใช้ผลิตบอดี้ของเครื่องปรับอากาศควรจะเป็นเหล็กแผ่นชนิด Electro Galvanize หรือนิยมเรียกว่า เหล็ก EG เป็นเหล็กแผ่นที่เคลือบซิ้งค์ด้วยกรรมวิธีทางไฟฟ้า ความหนาที่ใช้สำหรับบอดี้ของเครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่ 0.6–1.0 มม. ตามแต่ละผู้ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่บอดี้ของตัวCompressor ที่จะติดตั้งนอกอาคารจะหนากว่า อยู่ที่ 0.8 - 1.0 ม.ม. ส่วนตัวบอดี้ของคอยล์เย็นที่ติดตั้งในห้องตลาดจะหนา 0.6-0.8ม.ม. และเหล็กEGนี้จะมี 2 ชนิดของการเคลือบ คือ เหล็กEGแบบชุบฟอสเฟต และเหล็กEGแบบAnti-Finger (จับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ)ซึ่งแบบหลังนี้จะชุบซิ้งค์แล้ว เคลือบทับด้วยเรซิน ราคาก็จะแพงกว่า ส่วนแบบชุบฟอสเฟตจะใช้งานที่อยู่ภายในเครื่องเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไร ก็แล้วแต่ทั้ง 2 แบบที่ใช้กับบอดี้ของเครื่องปรับอากาศจะต้องเคลือบสีทับอีครั้งหนึ่ง

SPHC , SPCC ต่างกันยังงัย ต้องการปั้มชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ความหนา 1.00, 1.60, 2.30 ควรใช้ เหล็กแผ่น SPHC, SPCC ดีกว่ากันคะ

SPHC เป็นเกรดที่ใช้เรียกเหล็กแผ่นรีดร้อนหรือที่ท้องตลาดเรียกว่าเหล็กแผ่นดำ เหล็กแผ่นรีดร้อนในกลุ่มนี้จะใช้กับ งานขึ้นรูปทั่วไป นอกจาก SPHC แล้วในกลุ่มนี้ยังมีเกรด SPHD และ SPHEอีก ซึ่งมีความสามารถในการปั้มขึ้นรูป ลึกมากขึ้นตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามความสามารถในการปั้มขึ้นรูปของเหล็กแผ่นรีดร้อนทุกเกรดจะน้อยกว่า เหล็กแผ่นรีดเย็นที่มีถึง 5 เกรด คือ SPCC, SPCD, SPCE, SPCF และ SPCG เช่นที่ความหนา 1.6 มม.ตามสเป็ค SPHCจะยืดจนขาด (Elongation) ได้สูงสุด 29%แต่เหล็กแผ่นรีดเย้นที่ความหนาเดียวกันจะยืดจนขาด (Elongation) ได้ถึงสูงสุด 38%นอกจากสมบัติในการปั้มขึ้นรูปที่น้อยกว่านี้ คุณภาพผิวของเหล็กแผ่นรีดร้อน (SPHC) จะมีผิวสีดำ ไม่เรียบเหมือนเหล็กแผ่นรีดเย็น ความหนาในการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนให้บางถึง 1.0 มม. ก็ทำได้ยากดังนั้นการ เลือกใช้เหล็กเพื่อผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเลือกให้เหมาะสม เช่น เหล็กแผ่นรีดเย็น (SPCC) ใช้กับงานที่โชว์ ผิว เช่น ตัวบอดี้เครื่องใช้ไฟฟ้า งานที่ปั้มขึ้นรูปลึก งามที่บางๆ เช่น 1.00 และ 1.60มม. ส่วนเหล็กแผ่นรีดร้อน (SPHC) อาจประยุกตืใช้ได้บ้างเพื่อลดต้นทุนในงานที่มีความหนาเช่น 2.3 มม.และเป็นชิ้นส่วนที่ขึ้นรูประดับทั่วไปและ เป็นชิ้น ส่วนที่อยู่ภายในอุปกรณ์ แต่ควรเป็นเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ผ่านการล้างผิวด้วยกรดแล้ว หรือที่เรียกว่าเหล็ก PO (Picklingand oil) เพื่อสามารถทำสีแล้วผิวจะสวยและทนทานกว่า

ต้องการทราบมาตรฐานเหล็ก EG

การศึกษามาตรฐานเหล็กEGที่ชัดเจนและเลือกระดับเกรดให้เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้ตัวอย่าง รหัสมาตรฐานอย่างเต็ม เช่น SECC-CO E24/E32 รหัส 4 ตัวแรก คือ Class ของ Base Material มีตั้งแต่ SECC จนถึง SEFC980Y ขึ้นอยู่กับ Strength และความสามารถในการขึ้นรูป สำหรับ SECC เป็นเกรดที่ ใช้ในการขึ้นรูปทั่วไป มีราคาถูกที่สุดรหัสตัวที่ 5 คือ ชนิดของการ Post treatment (ทุกชนิดต้องเคลือบ Zinc ก่อนแต่จะต่างกันที่ชนิดของการ Post treatment) มีดังนี้ M=ไม่มี Post treatment, C=เคลือบ Chromate, P=เคลือบ Phosphate การเคลือบChromateจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่า ส่วนการเคลือบ Phosphateการ จับยึดของสีจะดีกว่าเนื่องจากลักษณะของตัวผลึกเคลือบและจะมีราคาถูกกว่า ผู้ใช้ต้องพิจารณาให้เหมาะสม รหัสตัวที่ 6 คือ ชนิดของการเคลือบน้ำมัน เป็นน้ำมันที่ช่วยยืดอายุของการจัดเก็บและหล่อลื่นในการปั้มขึ้นรูป มีรหัสต่างๆดังนี้ O=เคลือบน้ำมัน, X=ไม่เคลือบน้ำมัน น้ำมันที่เคลือบเป็นน้ำมันชนิดที่ล้างออก นำไปอบแห้ง และสามารถพ่นสีได้เหมือนชนิดน้ำมันที่เคลือบบนเหล็กแผ่นรีดเย็นทั่วไปหากเป็นงานที่ไม่มีการขึ้นรูปมาก แนะนำให้ไม่ต้องใช้ชนิดเคลือบน้ำมัน เพื่อลดราคาเหล็กและ ค่าใช้จ่ายในการล้างน้ำมันก่อนทำสี รหัสกลุ่ม สุดท้าย เป็นปริมาณการเคลือบของ Zinc มี 7 ระดับ คือ ES = 0.05 g/m2 Max. (ไม่ต้องการเคลือบแต่การ ผลิตจริงต้องมีบ้างเล็กน้อย), EB= 3 g/m2, E8= 10 g/m2, E16= 20g/m2, E24=30g/m2, E32=40 g/m2 และ E40 = 50 g/m2 ตัวอย่าง E24 / E32 หมายถึง ปริมาณการเคลือบของด้านบน 30g/m2 และด้านล่าง 40 g/m2 ปริมาณเคลือบของ Zinc ที่มากขึ้นจะทำให้ความคงทนต่อการกัดกร่อนมากขึ้นด้วย ราคาก็มากขึ้น เช่นกัน มีโรงงานไม่มากนักที่สามารถเคลือบด้านบนและด้านล่างได้ต่างกัน การไม่เคลือบในอีกด้านหนึงก็เพื่อ ให้มีความเป็นสื่อไฟฟ้าที่ดีซึ่งจำเป็นในบางลักษณะงานปัจจุบันมีการพัฒนาเหล็ก EG ที่ทำPost treatment ชนิด Chromateและเคลือบเรซินในชั้นสุดท้าย เพื่อใช้ในงานที่ไม่มีการขึ้นรูปมากนัก เช่น Panel ของเครื่อง ใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องนำไปพ่นสีต่อ หรือพ่นสีเพียงด้านเดียว โดยที่จับผิวที่เคลือบ แล้วก็ไม่มีรอยนิ้วมือและพัฒนาไปถึงการไม่ต้องมีPost treatmentแต่มีคุณสมบัติได้ทัดเทียมกับเหล็ก Zinc ที่Post treatmentชนิด Chromateและเคลือบเรซินในชั้นสุดท้าย คือเป็นเหล็กที่เคลือบZincแล้วทับด้วยเรซิน เลย การลดการใช้ChromateเพราะสารChromateมีผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและสุขภาพ แต่การเคลือบ แบบนี้ต้องใช้เรซินชนิดพิเศษ ชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก ผู้ใช้ไม่ต้องทำสี

เหล็กที่ใช้รีดลอนขึ้นเป็นหลังคาMetal sheetเป็นเหล็กแบบไหน เป็นเหล็กแผ่นหลายๆขนาดแล้วนำมาเชื่อม ต่อกันเป็นแผ่นหรือเปล่าค่ะ ขอความรู้ด้วยค่ะ

เหล็กที่ใช้รีดลอนขึ้นเป็นหลังคาMetal sheet เป็นเหล็กชุบซิ้งค์ด้วยการจุ่มร้อน (Hot Dip Galvanized Steel) ในการผลิตชุบซิ้งค์ด้วยการจุ่มร้อนจะใช้เหล็กแผ่นรีดเย็นเป็นวัตถุดิบ ความหนาก็จะอยู่ราว 0.35 - 0.40 มม. โดยจะผลิตออกมาเป็นลักษณะม้วนทั้งก่อนและหลังชุบ ไม่ใช่อย่างคุณเข้าใจว่าเป็นเหล็กแผ่นหลายๆ ขนาด แล้วนำมาเชื่อมต่อกันเป็นแผ่นอีกครั้งผู้ผลิตหลังคา Metal sheet จะซื้อเหล็กชุบซิ้งค์ที่เป็นม้วนมาทำลอนตาม ความยาวที่ลูกค้าต้องการแล้วแต่ขนาดหลังคาโลหะที่ใช้เคลือบบนแผ่นเหล็กจะเป็นทั้ง ซิ้งค์ (Zinc) และ อลูมิเนียมมาผสมด้วย เพื่อให้ดอกของผิวชุบสวยงามขึ้นและทนการกัดกร่อนได้ดี ส่วนผสมAlloyที่เคลือบส่วน มากจะเป็น Aluminium 55%, zinc 43.5% และ silicon 1.5% หรือที่เรียกกันว่า เหล็กอลูซิ้งค์ (Al-Zn coating) หรือบางที่ใช้ตัวย่อ AZ เช่น AZ150 จะหมายถึง Al-Zn coating ที่มีขั้นเคลือบ 150 กรัมต่อตารางเมตร หรือด้าน ละ 75 กรัมต่อตารางเมตร

ต้องการทราบว่าเหล็กเกรด SECC คืออะไร และมี Specification เป็นอย่างไรบ้าง

SECC เป็นเหล็กชั้นคุณภาพหนึ่งตามมาตรฐาน JIS G3313 ซึ่งเป็นเหล็กเคลือบสังกะสีด้วยวิธีทางไฟฟ้า หรือ Electrolytic Zinc-coated steel sheets มักนิยมเรียกสั้นๆว่าเหล็ก EG เหล็ก EG ชั้นคุณภาพSECC นี้ใช้กับงานปั้มขึ้นรูปทั่วไปที่ไม่ลึก โดยกำหนดค่า Tensile Strength ต้องสูงกว่า 270 N/mm2 และมีค่า Elongationสูงกว่า 34 %ขึ้นไป ส่วนค่า Yield Pointไม่ได้กำหนด SECC มีองค์ประกอบทางเคมีของเหล็กแผ่นรีดเย็นที่ถูกนำไปเคลือบดังนี้
C ไม่เกิน 0.15%
Mn ไม่เกิน 0.60%
P ไม่เกิน 0.100%
S C ไม่เกิน 0.050%
นอกจากชั้นคุณภาพ SECC ในมาตรฐาน JIS G3313 แล้วยังมีชั้นคุณภาพอื่น ดังนี้
SECD ที่ใช้กับงานปั้มขึ้นรูปลึก
SECE ที่ใช้กับงานปั้มขึ้นรูปลึกพิเศษ
SEFC340 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 340N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 34 %
SEFC370 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 370N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 32 %
SEFC390 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 390N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 30 %
SEFC440 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 440N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 26 %
SEFC490 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 490N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 23 %
SEFC540 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 540N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 20 %
SEFC590 เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 590N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 17 %
SEFC490Y เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 490N/mm2 ค่าElongationสูงกว่า 24 % และมีค่าYield Pointต่ำ คืออยู่ที่ 225N/mm2
SEFC540Y เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 540 N/mm2 ค่าElongationมากกว่า 21 % และมีค่าYield Pointสูงกว่า 245 N/mm2
SEFC590Y เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 590N/mm2 ค่าElongationมากกว่า 18 % มี Yield Point สูงกว่า 265N/mm2
SEFC780Y เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 780N/mm2 Elongationมากกว่า 13 % มี Yield Pointสูง กว่า 365N/mm2 SEFC980Y เป็นเหล็กที่มี่ค่า Tensile Strength สูงกว่า 980N/mm2 Elongationมากกว่า 6 % มี Yield Pointสูงกว่า 490N/mm2 SEFC340H เป็นเหล็กที่จะมี Strengthเพิ่มหลังจากผ่านเตาอบสี (Bake Hardening) จะที่มี่ Tensile Strength สูงกว่า 340 N/mm2 Elongationสูงกว่า 34 % มี Yield Pointสูงกว่า 185 N/mm2และมี Strengthเพิ่มหลังจากผ่านเตาอบสีไม่น้อยกว่า 30 N/mm2